Dhammakaya FactSheet - ธรรมกาย

Dhammakaya and their wrong teachings!!! -Articles, Interviews & Newsclips -

Name:
Location: Bangkok, Thailand

The reason I've made this blog is because Dhammakaya is a cult, exploting Buddhism concept... Don't fall into their traps! Seek the right path, which is a real Buddha's way... ok? That's my warning.. :-)

Tuesday, September 05, 2006

มาดูชาวธรรมกายเค้าวางแผนโพสพันทิปกัน

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Sea Ghost Man http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y4679230/Y4679230.html
http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=4617

โฮจุงยิ้มแล้วนะค้าบ โพสต์ 31/5/2006 16:53โพสต์ #35

สืบเนื่องจากในเวปพันทิพห้องศาสนาได้มีการโพสโต้ตอบ-ชี้แจงกรณีของวัดพระธรรมกายมากมายหลายประเด็นอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
จากกระทู้ก่อนหน้านี้มีความคิดเห็นโดยส่วนใหญ่ว่าคนที่โจมตีหนักๆเราไม่ต้องการแก้ไขความคิดเขาเท่าไหร่ แต่ที่เราต้องเข้าไปโพสเพราะต้องการนำเสนอข้อเท็จจริงให้คนที่ผ่านมาอ่านได้รับทราบความจริงมากกว่า ผมมีความเห็นว่า โดยส่วนใหญ่กระทู้ห้องศาสนาที่คนทั่วไปจะอ่านมักจะเป็นกระทู้แนะนำซึ่งอยู่ด้านบน
ส่วนกระทู้ทั่วไปด้านล่างจะเป็นขาประจำห้องศาสนา มานั่งไล่อ่านไล่ตอบซะมากกว่าจากการตั้งข้อสังเกตของผมเอง

อยากให้ท่านลองเข้าไปดูห้องราชดำเนิน จะพอสงสัยได้ว่ามีการจัดตั้งกลุ่มๆหนึ่งที่อาจเรียกว่าวอร์รูม กลุ่มนี้จะคอยโพสคอยโหวตและคอยช่วยกันลบกระทู้ที่เข้าข้างกลุ่มพันธมิตรฯหรือความคิดที่โจมตีรัฐบาล เราจะเห็นว่ากระทู้แนะนำทั้งหมดล้วนเป็นกระทู้ที่เป็นไปในแนวทางสนับสนุนรัฐบาล กระทู้ที่คัดค้านรัฐบาลแทบจะไม่มีโอกาสโผล่มาให้เห็นเลยจากจุดนี้ผมจึงมีความคิดว่า เราควรจะนำแนวทางนี้มาดัดแปลงใช้ให้เกิดประโยชน์สำหรับวัดเราในห้องศาสนาได้ด้วยเช่นกันคือ

1.พยายามอย่าโหวตกระทู้ที่โจมตีวัดเราโดยเด็ดขาด เข้าไปโต้ตอบให้น้อยที่สุด ปล่อยให้กระทู้ตบมือข้างเดียว เพื่อไม่ให้กระทู้เหล่านี้มีการเคลื่อนไหวมากมาย ซึ่งจะนำไปสู่การถูกโหวตจากบุคคลอื่นและทำให้กระทู้ติดลมบนขึ้นกระทู้แนะนำในที่สุด

2.ตั้งกระทู้เรื่องอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่คนทั่วไปที่เกี่ยวกับธรรมมะ เช่น ยกธรรมะในพระไตรปิฏกมาวิเคราะห์บ้าง ยกชาดกมาเล่าบ้าง พูดถึงประสบการณ์การทำดี ช่วยเหลือสังคมแล้วได้พบปะเรื่องราวประทับใจบ้าง เช่น เมื่อวานสอนธรรมมะให้รุ่นน้องคนนึงฟัง ปรากฏว่าบังเอิญเขากำลังจะฆ่าตัวตาย วันนี้เขามาขอบคุณที่ได้เล่าธรรมมะให้เขาฟัง ทำให้เขาเลือกคิดที่จะฆ่าตัวตายแล้ว จะเริ่มตั้งใจทำงานและเลี้ยงดูพ่อแม่ให้ดีที่สุด อะไรประมาณนี้ ซึ่งตรงนี้ผมก็เห็นหลายท่านได้ทำและกำลังทำอยู่อย่างมากมาย แต่ก็อยากให้อีกหลายๆท่านช่วยกันเพราะมันจะสร้างเครดิตให้กับล็อกอินของเรา ช่วยให้กระทู้ไม่ดีตกไปข้างล่างเร็วๆ ที่สำคัญเราเองก็ถือว่าได้ให้ธรรมทานด้วย

3.ตั้งกระทู้ในทางดีเกี่ยวกับวัดเราอ้อมๆ(เน้นว่าอ้อมๆนะครับ อย่าให้เขาเห็นว่าเป็นหน้าม้า) เช่น กระทู้ "รายชื่อวัดทีสอบได้เปรียญธรรม9ประโยคประจำปีนี้" แล้วเราก็นำเสนอรายชื่อวัดต่างๆ ซึ่งแน่นอนวัดเราครองแชมป์อยู่แล้น(เย้) แต่เราไม่ต้องแสดงความเห็นเชียร์เลย คือเสนอข่าวไปกลางๆ คนอ่านเขาจะเห็นเอง เฮ้ยวัดธรรมกายได้ที่หนึ่งเว้ย หรือ รายนามผู้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ เราก็นำเสนอซัก10ชื่อ โดยมีวัดเราด้วย แล้วก็ชักชวนเพื่อนๆในเวปมาร่วมบุญด้วยกัน โดยไม่ต้องเชียร์วัดเราเลย แบบนี้เป็นต้น

4.จากข้อ2และ3ให้เรานัดแนะกันโหวตกระทู้นั้นๆขึ้นมาให้เป็นกระทู้แนะนำ โดยช่วยกันทำให้สม่ำเสมอ กระทู้ไหนโจมตีเราหนักๆ เราก็ช่วยกันแจ้งลบกระทู้นั้นๆไปเลย
การเข้าไปชี้แจงกระทู้โจมตีถึงเราเขียนได้ดีแค่ไหนโอกาสคนทั่วไปเชื่ออีกฝ่ายนึงจะค่อนข้างมากกว่าเพราะเขาอคติมาตั้งแต่ช่วงที่วัดถูกโจมตีหนักๆมาแล้ว เราควรจะช่วยกันพรีเซนต์ให้คนทั่วไปได้รู้ในสิ่งที่สื่อไม่เคยนำเสนอบ้างเช่น ในแง่การสอบปริยัติวัดเราเป็นยังไง การช่วยเหลือแบบสังคมสงเคราะห์ของเราไม่เคยตกหล่น การมอบรางวัลให้วัดเราหรือการยกย่องวัดเราจากองค์กรต่างประเทศทั้งของชาวพุทธและชาวไม่พุทธต่างๆ ให้เขาเห็นซะบ้างว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อเราตอนนี้ทั่วโลกกำลังยกย่องนะ อะไรประมาณนี้เป็นต้น

ขณะนี้ ตอนนี้เ รามีสมาชิก มีกำลังพลที่จะทำได้เช่นเดียวกับวอร์รูมในห้องราชดำเนินและเราก็เห็นแล้วว่าเขาทำได้ ฝ่ายที่โจมตีเราส่วนใหญ่มักอยู่เดี่ยวๆ เขาไม่ค่อยได้จับกลุ่มกันเท่าไหร่นัก ถึงจับกลุ่มจริงๆถ้าเทียบกับกลุ่มของเรา ผมมั่นใจว่าของเราชนะขาด ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นผู้นำกลุ่มคอยส่งสารหลังไมค์ให้พวกเราคอยไปโหวตกระทู้นั้นคอยไปเชียร์กระทู้นี้ โดยส่วนตัวผมเห็นคุณเกียรติหัดฝัน คุณวรกร และอีกหลายๆท่าน สมควรจะเป็นผู้นำนะครับ (หากมีเวลาพอ)หากเราทำได้ใกล้เคียงที่ห้องราชดำเนินทำ (อย่างแนบเนียนที่สุด) ผมมองว่าจะเกิดประโยชน์ขึ้นอย่างมหาศาล ตามหลักจิตวิทยา เวลาเราเห็นคนส่วนใหญ่เห็นด้วยไปทางไหน เราเองมักจะเขวๆตามไปทางนั้น ไม่มากก็น้อย

แม้แต่เรื่องการเมืองในห้องราชดำเนิน ผมว่าคนผ่านไปผ่านมาที่ได้อ่านกระทู้ถึงจะคัดค้านรัฐบาลแค่ไหนถ้าได้อ่านก็คงมีเขวๆไปบ้าง ยิ่งคนที่กลางๆอยู่แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมว่าเป๋ไปเลยทีเดียวหากท่านอื่นมีความคิดเห็นขัดแย้งหรือคิดว่าดีแล้วแต่อยากเพิ่มเติม เชิญเลยนะครับ ช่วยๆกันครับ ทางโลกเขายังมีโฆษณาประเภท"เล่นเนทอย่างไรให้ได้เงิน" เราก็เอาบ้างครับอย่ายอมเล่นเนททั้งที ของเราต้องเป็น "เล่นเนทอย่างไรให้ได้บุญ"อนุโมทนากับทุกท่านครับปล. ถ้าเวปมาสเตอร์หรือสมาชิกท่านใดคิดว่ากระทู้นี้ควรเป็นความลับ ลบได้เลยครับ แต่จะเป็นไปได้มั้ยถ้างั้นช่วยส่งหลังไมค์ให้สมาชิกทุกท่านได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ

------------------------
โฮจุงยิ้มแล้วนะค้าบ โพสต์ 1/6/2006 14:36โพสต์ #42*

ขอบคุณมากครับ พี่จังกึม (แอบเรียกพี่เพราะเราหน้าอ่อน แหะๆ) อีกหน่อยตั้งชื่อนิกเนมเป็น โฮจุนบ้างดีกว่ากำลังอินเทรนด์ เลียนแบบพี่จังกึมซะเลย*

ผมว่าบางทีการที่เราเป็นแพทย์หรืออีกหลายท่านที่มีหน้าที่การงานที่พอเป็นเครดิตในทางโลก ขอเสนอแนะว่า เวลาเราเข้าไปโพสในห้องศาสนา ให้เราพยายามเปิดเผยอาชีพหรือหน้าที่การงานเราแบบเนียนๆไปด้วย เช่น อาทิตย์ที่แล้วได้มีโอกาสสอนคนไข้ที่มาFollow up ให้ฝึกสมาธิ ปรากฎว่าวันนี้คนไข้มาตรวจ เราแปลกใจมากเลย ทำไมคนไข้ดูหน้าตาสดใสขึ้น ถามเขาว่าไปทำอะไรมา เขาบอกว่า "ก็ผมไปฝึกสมาธิตามที่คุณหมอสอนไงครับ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่กรุณาแนะนำสิ่งดีๆเป็นแสงสว่างให้ชีวิตผม" อะไรประมาณนี้ คนที่มาอ่านเจอเขาจะได้รู้ว่าเราเป็นหมอนะ เป็นลูกศิษย์วัดธรรมกาย "เอ๊ะ เห็นมีคนพูดหลายคนแล้วว่า คนฉลาดๆ คนรวยๆ เข้าวัดนี้กันเยอะ"

คนที่เข้ามาอ่านเขาต้องรู้สึกในใจบ้างแหละว่า ทำไม คนที่เขามีความคิดความอ่านมีไอคิวสูงๆ ไม่น่าจะถูกหลอกง่ายๆ ทำไมแม้มีข่าวโจมตีมากมายก็ยังมาเข้าวัดนี้กันอีก สิ่งเหล่านี้แม้จะยังไม่สามารถไปเปลี่ยนทัศนคติเขาได้ทันที แต่มันจะเข้าไปสะสมคะแนนด้านดีของวัดเราในจิตใจเขาไม่มากก็น้อย เราก็ค่อยๆสะสมคะแนนด้านดีแบบนี้เรื่อยๆไป พูดง่ายๆในทางธุรกิจก็เหมือนการสร้างแบรนด์นั่นแหละครับ

ผมขอยกตัวอย่างละกัน ยังจำได้มั้ยครับว่า โออิชิ ครั้งนึงเคยโดนข่าวเรื่องน้ำกรดที่ปะปนอยู่ในชาเขียว ครั้งนั้นผมเองมั่นใจเลยว่า แบรนด์โออิชิดับแน่นอนงานนี้ ยากจะแก้ไขได้ แต่เชื่อมั้ยครับ เขาพลิกกลยุทธ์ ให้ผู้บริโภคเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ 30ฝา 30ล้าน และโหมโฆษณาทางสื่อต่างๆอย่างเต็มที่ จนซักพักคนไทยก็เริ่มลืม แถมตรงกันข้าม คนยิ่งซื้อโออิชิมากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะหวังเงินล้านใต้ฝาผมเองคิดว่า การที่เราโดดเข้าไปเล่นเกมหักล้างความเชื่อ คำสอน-นิพพาน-การระดมทุน ถึงเราแก้ได้ดีแค่ไหน ก็ยากที่จะไปพลิกใจคนเหล่านั้น แต่ให้เราสร้างแบรนด์จากทางอื่น เช่น ความดีในการช่วยเหลือสังคมของวัดเรา ความเก่งในแง่ปริยัติจากรางวัลหรือเปรียญ ความน่าเชื่อถือจากที่มีคนเก่งคนรวยเข้าวัดเรามากค่อยๆสั่งสมไปครับ วันนึงแบรนด์เราก็จะค่อยๆมีคะแนนมากขึ้น

เสนอแนะนิดส์นึงเรื่องการเปิดเผยอาชีพการงาน ขอให้เปิดเผยแบบเนียนๆนะครับ คือบอกเหมือนไม่บอก อย่างที่ผมยกตัวอย่าง เราเอ่ยว่าคนไข้มาตรวจกับเรา คนอื่นก็จะรู้กลายๆเลยว่าเราเป็นหมอ อย่าไปตั้งนิกเนมว่า "หมอมหิดล" หรือประกาศตนอย่างโจ่งแจ้งว่าเป็นเจ้าของบริษัท อย่างนี้เสร็จเลยครับ เพราะเขาจะคิดว่าเรากำลังโอ้อวดตัวเองอยู่ หรือหนักกว่านั้น เขาอาจจะคิดว่าเราไม่ได้เป็นอาชีพนั้นๆจริงก็ได้ แอบอ้างเอาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ อย่างนี้ติดลบครับแทนที่จะเป็นบวก

* รู้สึกผิดอย่างรุนแรงมากๆ ผมลืมคุณ Foox ไปเลย ท่านเป็นกำลังสำคัญของวัดเราทีเดียวนะครับ ในการเข้าไปเผยแผ่ในห้องศาสนา ขอเสนอชื่อท่าน Foox เป็นแกนนำด้วยครับ* เรื่องขุ่นมัวนี่ ขอยกมือสุดแรงเกิดด้วยคน ผมเองก็เป็นนะครับ เคยพยายามหลายครั้งแล้ว ที่จะอ่านและพยายามตอบหักล้าง แต่ได้ไม่คุ้มเสีย คือผมยังไม่แกร่งกล้าพอที่จะตอบได้ดีมากๆแบบ พี่เกียรติหัดฝัน คุณวรกร ท่านFoox ฯลฯ ผมเข้าไปอ่านยังไงก็คงตอบได้ไม่ดีเท่าท่านเหล่านี้ จะทำได้อย่างมากก็ให้ความเห็นหนับหนุน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคืออารมณ์ขุ่นมัว อารมณ์เร่าร้อน นั่งธรรมะนี่ฟุ้งกระจายยิ่งกว่าแป้งฝุ่นโดนทอร์นาโดเป่าเลยครับ หลังๆเลยต้องขออนุญาตเป็นทหารกองหลังไม่เข้าไปอ่านแล้วครับ ปล่อยให้ทัพหน้าความสามารถสูงบุกตะลุยไปก่อนครับ หากท่านๆทัพหน้าต้องการกำลังหนับหนุนกระทู้ไหนหลังไมค์มาเลยครับ ผมจะเข้าไปประมาณว่า "อ่านของคุณเกียรติผมว่าคุณเกียรติแสดงเหตุผลได้อย่างแยบคายและดูใจเย็นกว่าคุณงงทุกอบายเอ๊ยงงทุกสถานการณ์นะครับ" อะไรแบบนี้ก็จะทำให้น้ำหนักคุณเกียรติดีขึ้น

*** บางทีถ้าเราสรุปแนวทางการเผยแผ่ทางเนทได้แล้วว่าต้องไปโพสกระทู้ไหน เป็นหน้าม้ากันอย่างไร อาจจะพิมพ์ออกมาเลย แล้วนัดแนะกันไปเอาเอกสารที่สภา วัดอาทิตย์ จะได้ไม่ดูเปิดเผยกันเกินไป ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะลงทุนอยากรู้กลยุทธ์เรา ไปเอาเอกสารที่วัดบ้าง ก็เรียนเชิญเลยนะครับ จะได้มีโอกาสพรีเซนต์บ้านใหญ่ของเราให้เขาได้สัมผัส เผลอๆอาจเปลี่ยนฝ่ายไปซะงั้นก็ได้นะครับ (นึกแล้วขำปนปิติดี)***

เล่นเนทให้ผ่อนคลายและได้บุญครับ***ปล.ผมเพิ่งขายเครื่องเกมPlay station2 ไป เนื่องจากคิดว่ามันช่างกัดกินเวลาอันมีค่าของเราซะเหลือเกิน เล่นเนทแบบได้บุญดีก่า ผ่อนคลายแบบอยู่ในบุญ แถมเหมือนได้เจอกัลยาณมิตรทุกวันด้วย อุ่นใจดีครับ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home